การเพิ่มความเร็วให้กับ Laravel Framwork

การเพิ่มความเร็วให้กับ Laravel สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

  1. Cache: การใช้ Cache จะช่วยลดความเร็วในการเรียกข้อมูลจากฐานข้อมูล โดยจะเก็บข้อมูลในหน่วยความจำชั่วคราว เช่น ใช้ Cache ในการเก็บข้อมูลการเข้าถึงฐานข้อมูลหรือข้อมูลอื่นๆ ที่ใช้บ่อย ๆ
  2. Optimize Composer: การใช้ Composer เพื่อจัดการ Dependencies ใน Laravel นั้น มีความสำคัญอย่างมาก โดยจะแนะนำให้เรา Optimize Composer เพื่อให้ Composer ทำงานได้อย่างรวดเร็วและประหยัดทรัพยากร
  3. Config Cache: การใช้ Config Cache หมายถึงการเก็บค่าการตั้งค่าของ Laravel ในหน่วยความจำชั่วคราว เพื่อลดความเสียเวลาในการอ่านไฟล์การตั้งค่าของ Laravel โดย Config Cache จะถูกสร้างขึ้นไปพร้อมกับ Application และจะถูก Refresh เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง Config
  4. Optimize Autoloader: การใช้ Autoloader ใน Laravel นั้นสามารถเพิ่มความเร็วในการโหลด Class ได้ โดยการใช้คำสั่ง Composer dumpautoload -o
  5. Database Indexing: การสร้าง Index ใน Database จะช่วยเพิ่มความเร็วในการค้นหาข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงควรสร้าง Index ให้เหมาะสมกับฐานข้อมูลของเรา
  6. Server Optimization: การ Optimizing Server เพื่อให้ระบบ Laravel ทำงานได้อย่างรวดเร็ว หลายอย่างเช่นการใช้งาน Reverse Proxy, Nginx, PHP-FPM, Caching และอื่น ๆ
  7. Code Optimization: การ Optimize Code โดยการเขียน Code ให้เป็นรูปแบบที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่นการใช้งาน Eager Loading แทนการใช้ Lazy Loading หรือการเรียกใช้ function ให้เหมาะสมและประหยัดเวลา

สำหรับ DataTable CRUD นั้น สามารถเพิ่มความเร็วได้โดยการใช้งาน Server-side Processing แทนการใช้งาน Client-side Processing ซึ่งจะช่วยลดการโหลดข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ DataTable ได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้งาน Cache ในการเก็บข้อมูลชั่วคราวและการ Optimize Query ในการเรียกข้อมูลจากฐานข้อมูลได้เช่นกัน

แท๊ก

laravel
บทความยอดนิยม